วันอังคารที่ 10 พฤศจิกายน พ.ศ. 2552

ชีวิตกับการลงทุน (หุ้น) ภาค 1

แรงดลบันดาลใจให้สนใจกิจกรรมจากการลงทุนในตลาดหลักทรัพย์แรกเริ่มเดิมทีก็ตั้งแต่ปี 2533 ด้วยความบังเอิญหลังเลิกงานแวะเข้าเซ็นทรัลชิดลมผ่านโต๊ะส่งเสริมการขายของหนังสือพิมพ์เครือเดอะเนชั่น โดนรบเร้าจากเซลล์ไม่ไหวก็เลยสมัครทั้งสมาชิกกรุงเทพธุรกิจและหนังสือพิมพ์ภาษาอังกฤษ Newsweek ตอนนั้นเพิ่งทำบัตรเครดิตวีซ่าใหม่ๆ เข้าทางเลยอยากรูดบัตรโชว์ความรวย สมัครเป็นสมาชิกแล้วเขาส่งหนังสือทุกเช้า แต่ไม่ค่อยได้อ่าน เขาเอากล่องนิวสวีคไปติดหน้าร้านรู้สึกเทห์ไม่เบา ซึ่งแต่ก่อนเช่าบ้านกับเพื่อที่ซอยเพชรบุรี 7 แถวๆราชเทวี โดยเพื่อนลงทุนเปิดร้านอาหารปักษ์ใต้เราทำงานแต่เพื่อนเรียนยังไม่จบ เนื่องจากเป็นหนังสือพิมพ์ธุรกิจก็เลยไม่ค่อยได้เปิดอ่านเท่าไหร่ มอบให้เพื่อนไว้ห่อข้าวขายซะส่วนใหญ่ มาสนใจเปิดอ่านก็ตอนการบินไทยประกาศขายหุ้นนั้นแหละไปจองกะเขาด้วยที่แบงค์ได้มา 400 หุ้น ชวนเพื่อนซื้อด้วย 400 หุ้น (หลายสิบปีผ่านมา หุ้นตัวนี้ลดลงต่ำกว่าจองมากทีเดียว ไม่เติบโตเหมือนกิจการอื่น พย 2551 ตกลงมาราคาต่ำสิบ) ที่นี่พอซื้อมาแล้วไม่รู้จะขายที่ใหน กอดใบหุ้นหลายเดือนทีเดียว เพื่อนที่เราชวนซื้อบังคับให้เรารับผิดชอบให้ขายของเขาด้วยเพราะเขาร้อนเงิน ก็เป็นปัญหาสิครับเราไม่มีพอร์ตกับเขา จะทำยังไงดี สมัยก่อนเปิดพอร์ตอย่างต่ำต้องสามแสน จนปัญญาไม่รู้จะขายใคร ก็เลยเปิดอ่านหนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจ ในหน้าหุ้นและการเงินสัยก่อนเขาจะมีคอลัมน์ประกาศซื้อขายเศษหุ้นอยู่ ได้ทีหละที่นี่ จัดการโทรไปที่สำนักพิมพ์ ใช้สิทธิ์ในฐานะสมาชิก ลงประกาศขายหุ้น 400 หุ้นของเพื่อนก่อน ได้ผลไม่เกินอาทิตย์มีคนโทรมาติดต่อซื้อโดยนัดเจอที่ตึกนวธนกิจเก่า ใกล้ๆมาบุญครอง ที่ซื้อเพราะเห็นใจเราไม่ได้ต้องการค้ากำไรเท่าไหร่หรอก ไม่ทราบผู้ใหญ่ที่ซื้อไปวันนั้นตอนนี้ยังอยู่หรือเปล่าเพราะไม่ได้ติดต่อกันเลย

ความคาดหวังตอนนั้นคิดว่าไม่นานเกินรอเราจะต้องรวยแน่ๆ คิดคำนวณแบบโง่ๆ ถ้าขึ้นหุ้นละพัน เราจะได้ 4 แสน ขายปั๊บกะจะถอยโตโยต้าสามห่วง ซึ่งตอนนั้นเพิ่งออกโฉมใหม่หรือไม่ก็ Civic สักคัน สมัยนั้นใฝ่ฝันกับรถยนต์มาก ชิ้นส่วนอะไรหากสามารถชิงโชคได้รถ จะส่งหมด ไม่ว่าสบู่หรือยาสีฟัน แต่ไม่เคยโชคดีแม้ว่ารางสุดท้ายก็เถอะ ไม่เข้าใจเหมือนกันว่า ทำไมถึงคิดว่าหุ้นมันจะไปถึงหลักพัน มาลองไล่เรียงกันดูน่าจะเป็นเจ้าหนังสือ รวยด้วยหุ้น ซึ่งเขียนโดย อาจารยไตรรัตน์หรืใครจำไม่ได้แล้ว แต่จำได้ว่าสั่งผ่านหนังสือพิมพ์เดลินิวส์ ซึ่งถือว่าเป็นหนังสือเกี่ยวกับหุ้นเล่มแรกในเมืองไทยสมัยนั้นก็ได้ อ่านหมดทุกเล่ม อ่านซ้ำๆหลายๆครั้ง จนทราบแนวทางว่าจะเดินไปทางใหนต่อหากอยากเล่นหุ้น โดยไม่ต้องอาศัยคนอื่นขาย ส่วนเรื่องราวจะเป็นอย่างไร เชิญอ่านต่อภาคสอง

วันอาทิตย์ที่ 8 พฤศจิกายน พ.ศ. 2552

วันเสาร์ที่ 7 พฤศจิกายน พ.ศ. 2552

ว่างๆทำยาฆ่าแมลงสาบไม่ทำลายสิ่งแวดล้อมดีกว่า

พูดถึงแมลงสาบน้อยคนที่จะชอบสัตว์ดึกดำบรรพ์แบบนี้ พอดีไปค้นจอบทความของนักเรียนที่ใหนจำไม่ได้ก็เลยแอบจำสูตรมาทำดูวันนี้ 7 พย 52 เย็นๆจัดแจงซื้อแป้งข้าวเจ้า ไปขอปูนซิเมนต์ผงจากช่างที่กำลังตกแต่งบ้าน โอวัลติลผงของลูกสาวจากในครัว นำสามอย่างนี้แหล่งมาผสมให้เข้ากันดีไปวางไว้ในครัวจุดที่แมลงสาบชอบออกมาหากินตอนกลางคืน พอมาช่วงเช้าจากที่ตั้งไว้ 6 กอง ปรากฎว่ากินหมดแค่กองเดียว ไม่ทราบเพราะสาเหตุอะไร หรือไม่ชอบสูตรที่ผสมก้วานบอกมา ได้ผลอย่างไร ก็จะเขียนอัพเดทในบล็อกนี้แหละ

หัดเขียนบล็อกวันแรก 7 พย 52

เห็นคนอื่น เจ้านาย เพื่อนร่วมงานมีบล็อกก็เลยเอาบ้าง ไม่ได้คาดหวังว่าจะนำเสนออะไร เอาเป็นว่าว่างจากงาน เบื่อๆอยากๆรอรถ รอเครื่องบิน รอโน่น รอนี่ รอไม่ไหว เปิดโน๊ตบุ๊คทำอะไรเล่นดีกว่า ไม่ได้หวังว่าใครจะเข้ามาอ่านหรือไม่อ่าน ใครจะชอบหรือไม่ชอบก้ไม่ว่าเพราะผมไม่ได้เชื้อเชิญใคร แต่จะเข้าไม่ดูก็ไม่ว่า ณ ตอนนี้เขียนไปฝึกไป แล้วค่อยมาปรับแก้ตามหลังหลังจากชำนาญแล้ว ใครจะวิจารณ์อะไรอย่างไรไม่สนอะ

น้ำท่วมอีกแร๊ะ 6 พย 52


ปีนี้น้ำท่วมมาตามนัดปกติ ก็เลยไม่ตืนเต้นอะไรสักเท่าไหร่ หลังจากยุ่งมาเกือบทั้งเดือนบางทีน้ำท่วมอาจจะช่วยให้อะไรหลายๆได้หยุดเดินบ้าง เพราะไม่รู้จะทำอะไรก็มีแต่น้ำ แผนการทำงานที่เตรียมไว่ไม่ว่าการพรีเซนต์งานต้องหยุดไว้หมด งานทิ้งไว้ตรงหน้าเพราะไปไม่ได้จริงๆ ที่นัดประชุมก็ต้องยกเลิกเพราะบางคนมาทำงานไม่ได้ บ้ายวันศุกร์6 พย 52 ไปขอลานายว่าจกลับก่อนเวลาเนื่องจากที่บ้านบอกว่าน้ำกำลังขึ้น หากไม่รีบกลับ เดี๋ยวจะกลับไม่ได้เพราะติดน้ำท่วม เป็นไปดังคาดตามรายทางน้ำท่วมถนนเป็นระยะๆ แต่ก็ไม่ใช่ปัญหาเพราะได้เปลี่ยนเป็นรถ CRV จากปีที่แล้วได้ประสบการณ์เดินหน้าก็ไม่ได้ ครั้นจะถอยหลังก็ไม่ได้ซะอีกเพราะน้ำเริ่มไหลแรง ตัดสินใจจดบนสะพานคลองหวะ ทั้งๆที่มีนัดสำคัญ สุดท้ายตัดสินใจถามทางลัด เผื่อจะได้ไปได้บ้าง ก็เลยสมใจอ้อมไปทางสนามบิน ผ่านคลองหอยโข่ง จึงไปตามนัดได้ แต่ปีนี้ปัญหาเหล่านั้นหมดไป เพราะรถเราลุยน้ำได้โดยไม่มีปัญหา นี่คือเหตุผลสำคัญอันหนึ่งในการเปลี่ยนรถ ถึงแม้ค่าใช้จ่ายสูงขึ้นไปหน่อยแต่แลกกับคามสะดวกสะบายก็นับว่าคุ้มทีเดียว

น้ำท่วมใต้น้ำลายท่วมปากที่เมืองกรุง

ในขณะที่ยุ่งอยู่กับงานหลายๆเรื่อง ไม่ว่าการสรุปรายงานที่ค้างคาตั้งแต่ต้นเดือน การเตรียมตัวเพื่อรับผู้บริหารระดับสูงจากอเมริกาจะมาเยือน อาทิตย์นี้ทั้งอาทิตย์เหนื่อยเอาการพอสมควร และแล้วทุกอย่างเปลี่ยนไปหมด เมื่อวันศุกร์ 6 พฤศจิกายน 2552 ทางผู้บริหารต้องเรียกประชุมแต่เช้าเนื่องจากเกิดน้ำท่วมฉับพลันจนต้องหยุดการผลิตโดยสิ้นเชิง ทั้งๆที่ก่อนหน้านี้ต้องใช้น้ำดับไฟที่ไหม้ถังเก่าอันเนื่องมาจากความสะเพร่าของผู้รับเหมา พระศุกร์เข้าพระเสาร์แทรก จากฝนที่เทลงมาทั้งคืนทุกอย่างวันนี้เปลี่ยนไปหมด บัดดี้ที่จะต้องเข้าเวรวันหยุดด้วยกันส่งเมล์มาบอกยกเลิกอันเนื่องมาจากน้ำท่วม แต่เรายังลังเลขอดูพรุ่งนี้เช้า ทำงานจนถึงบ่ายต้องเปลี่ยนความคิดซะแล้วเนื่องจากน้ำในคลองรอบๆที่ทำงานล้นตลิ่ง ด้วยความกังวลเหมือนกับเหตุการณ์น้ำท่วมเมื่อหลายปีที่แล้วที่เราไปใหนไม่ได้เพราะติดแหง้กอยู่นที่ทำงาน ตัดสินใจส่งเมล์ยกเลิกไม่เข้าเวรพรุ่งนี้แล้ว เข้าไปลานายหัวว่าจะกลับบ้านเพราะเป็นห่วงเพราะจากข่าวฝนตกไม่ยอมหยุดแถมกรมอุตุบอกให้ระมัดระวังน้ำท่วมเฉียบพลัน บ่ายสองควบ CRV เติมน้ำมันเติมแก๊สเต็มถัง วิ่งฝ่าน้ำที่ท่วมบนถนนตามรายทางเป็นระยะๆ รถเก่งหลายคันต้องหันหน้ากลับเนื่องจากไปไม่ได้ กว่าจะถึงบ้านเกือบ 5 โมง วันนี้พอถึงนาเกตุตัดสินใจเปลี่ยนเส้นทางใหม่ โดยใช้เส้นทางสี่เลนที่กำลังก่อสร้างโดยทหารช่าง ปรากฎว่าเข้าผิดทางก็เลยเสียเวลาไปนิด ไม่ผิดหวังครับตามเส้นทางสวยงาม ไม่มีช่วงใดที่น้ำจะท่วมถึง ทางแยกทางข้ามมีสะพานลอยตลอด คงลงทุนไปเยอะมาก แต่เสียอย่างเดียวคือเสร็จช้า อันเนื่องมาจากสถานการณ์นั้นเอง

ย้อนกลับมาดูการเมืองของไทย นายกมหาอำนาจไทยท่านอภิสิทธิ์ ประกาศเรียกฑูตไทยประจำเขมรกลับ โทษฐานที่สมยอมให้ทักษิณไปเป็นที่ปรึกษาฮุนเซ็น ทีแรกนึกว่าจะส่งทหารบุกพนมเปญเสียอีก งานนี้คงไม่พ้นโฆษกปากตะกร้อที่จะต้องมาโต้ตอบรายวัน ออกมาพูดทีไรคะแนนเสียงลดลงทุกที แต่ผลโพล์ที่ชะเลียร์รัฐบาลอย่างมหาลัยเอกชน แถวๆรามคำแหงกลับสำรวจบอกว่าคะแนนเสียงรัฐบาลเพิ่มขึ้น อันเนื่องมาจากการตัดสินใจเรียกฑูตกลับ ก็เลยต้องมาตั้งสตินึกอีกครั้งว่างานนี้จะล้มเหลวเหมือนกับอีกหลายๆงานที่ทำไปหรือเปล่า นายกเราได้ข่าวว่าถุกตามใจมาแต่เด็ก ทำอะไรก็เลยดูแปลกๆหลายอย่าง